นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการประจำปี Energy Symposium 2020 เรื่อง “การปรับตัวและความอยู่รอดของภาคอุตสาหกรรมไทยต่อวิกฤติพลังงานโลก” จัดโดยสถาบันพลังงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 13 ก.ย.นี้ จะมีการพิจารณามาตรการบรรเทาผลกระทบจากค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค.ที่ปรับขึ้นให้กับกลุ่มผู้ใช้ไฟบ้านไม่เกิน 500 หน่วย รวม 4 เดือน และมาตรการขยายระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตดีเซลที่ปัจจุบันปรับลด 5 บาทต่อลิตรที่จะสิ้นสุด 20 ก.ย.นี้ เพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชน โดยวิกฤติพลังงานที่เกิดขึ้นจากผลกระทบการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้รัฐบาลได้มีการดูแลทั้งราคาดีเซลไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตร และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ล่าสุดคิดเป็นวงเงินกว่า 1.2 แสนล้านบาท เช่นเดียวกับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องแบกรับภาระแทนประชาชนอยู่เกือบ 1 แสนล้านบาท รวมวงเงินเหล่านี้กว่า 2 แสนล้านบาท และยังดูแลต่อเนื่อง คำพูดจาก ทดลองเล่น

“รัฐไม่อาจใช้เงินในการดูแลหรือแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมดเพราะต้องรักษาวินัยทางการเงินเพราะไม่ใช่แค่รอดแต่บอบช้ำ เราจึงทำได้แบบประคับประคองแล้วรอดไปด้วยกันทุกด้านโดยเฉพาะการเงินแล้วก้าวไปอย่างเข้มแข็ง โดยในส่วนของการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลคลังจะเป็นผู้เสนอ ส่วนตัวเลขจะมีการปรับเปลี่ยนลดลงหรือเท่าเดิมคงต้องรอติดตาม” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือค่าไฟ คือ กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อลดภาระค่าครองชีพของผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 ขณะที่กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่าเอฟที เดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 แบบขั้นบันได 15-75% ซึ่งทั้ง 2 มาตรการ เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของ กฟน. และ กฟภ. ครอบคลุมประมาณ 80% ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 89% ของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย.คำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต