ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แมนฯ ซิตี้ 1 – เบรนท์ฟอร์ด 0

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

แมนฯ ซิตี้ ให้ เควิน เดอ บรอยน์ เป็นสำรอง และส่ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ ฟิล โฟเด้น เป็นตัวหลักเกมรุกลงเล่นเกมตกค้างพบ เบรนท์ฟอร์ด ที่นำมาโดย ไอแวน โทนี่ย์

เจ้าถิ่นมีโอกาสลุ้นในนาทีที่ 9 แบร์นาร์โด้ ซิลวา ผ่านบอลให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ได้โหม่งในเขตโทษ แต่บอลโด่งออกหลังไป

นาทีที่ 16 เบรนท์ฟอร์ด หาโอกาสตอบโต้บ้าง โยอัน วิสซ่า ไหลบอลให้ แฟร้งค์ ออนเยก้า ยิงในเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ไม่ผ่านมือ เอแดร์ซอน

จากนั้น แมนฯ ซิตี้ ลุยต่อ ฮูเลียน อัลวาเรซ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ต่างได้ยิงในช่วงเข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก แต่บอลก็ไม่เข้ากรอบ

คำพูดจาก ไม่ผ่านเอเย่นต์ 2024

ช่วงทดเจ็บ แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสอีกครั้ง มานูเอล อคานจี จ่ายบอลให้ จอห์น สโตนส์ กดด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลเข้ากรอบแต่ติดเซฟของ มาร์ค เฟล็คเค่น ก่อนจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0

ครึ่งหลังนาที 58 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นจากฟรีคิกทางฝั่งซ้ายที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เปิดไปให้ โรดรี้ ได้โหม่งในเขตโทษ แต่ว่าไม่เข้ากรอบ

เป๊ป กุนซือเรือใบอยู่เฉยไม่ได้ต้องปรับเกมรุกส่ง เฌเรมี่ โดกู ลงเล่นแทน ออสการ์ บ๊อบ ในนาที 61 ส่วนทีมเยือนเปลี่ยนให้ นีล โมเปย์ ลงเล่น โยอัน วิสซ่า ในอีก 6 นาทีถัดมา

แมนฯ ซิตี้ เอาประตูนำ 1-0 จนได้ในนาที 72 จากจังหวะโต้กลับที่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ จ่ายจากแดนตัวเองให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ จับแล้วควบพาบอลขึ้นหน้า คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ ที่อยู่ตัวสุดท้าย ดันลื่นเสียจังหวะล้มเลยกลายเป็นว่า ฮาแลนด์ ได้หลุดเดี่ยวก่อนแปสวนตัว เฟล็คเค่น ตุงตาข่าย

เจ้าถิ่นเฮเก้อในนาที 80 เมื่อ โรดรี้ ตักบอลเข้าเขตโทษให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ตามไปตวัดให้ ฮาแลนด์ ยิงจ่อๆ ทว่าจังหวะออกตัวของ วอล์คเกอร์ ล้ำหน้าจึงไม่ได้ประตูที่สอง

ท้ายเกม แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสทั้งจาก ฟิล โฟเด้น และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แต่ก็ไม่สามารถบวกเพิ่มได้ทำให้จบเกมเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด หวุดหวิด 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 56 คะแนน แซงหน้า อาร์เซน่อล เป็นรองจ่าฝูงตามหลัง ลิเวอร์พูล คะแนนเดียว

คำพูดจาก บเว็บสล็อ

รายชื่อผู้เล่นทั้่งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, มานูเอล อคานจี – โรดรี้ เอร์นานเดซ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ออสการ์ บ๊อบ, ฮูเลียน อัลวาเรซ, ฟิล โฟเด้น – เออร์ลิง ฮาแลนด์

เบรนท์ฟอร์ด : มาร์ค เฟล็คเค่น – คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์, เบน มี, มัทธิอัส ยอร์เกนเซ่น – แมดส์ โรเออร์สเลฟ, แฟร้งค์ ออนเยก้า, คริสเตียน นอร์การ์ด, วิตาลี่ ยาเนลท์, เซร์คิโอ เรกีลอน – ไอแวน โทนี่ย์, โยอัน วิสซ่า

ผู้ตัดสิน : ดาร์เรน อิงแลนด์